แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว ได้ยินวีรกรรมของเด่นชัยมาบ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ขอบคุณสวรรค์ที่อย่างน้อยมันก็มีแค่วันเดียว



ด้วยความที่ไม่รู้จะดูอะไร วันหนึ่งก็เลยเปิดแฟนเดย์ดู ได้ยินวีรกรรมของเด่นชัยมาบ้างแล้ว แต่ไม่คิดว่าดูจริงแล้วจะอ้วกขนาดนี้ ได้โปรดเก็บพฤติกรรมไม่ดีไว้เป็นบทเรียนว่า ‘อย่าหาทำ!’

แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว เปิดหัวมาขนาดนี้ก็รู้เลยว่าบ่นแน่นอน

เรื่องราวของแฟนเดย์เกี่ยวกับผู้ชายขี้แพ้นางหนึ่งชื่อเด่นชัย ทำงานอยู่ฝ่ายไอที เด่นชัยได้ไปตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ออฟฟิศเดียวกันชื่อนุ้ย วันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ทำให้นุ้ยความจำเสื่อมตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น เด่นชัยเข้าไปช่วยไว้ แล้วก็โกหกว่าเป็นแฟนของนุ้ย ชื่อว่าท๊อป

อ่านพลอตเปล่า ๆ ก็ดูไม่มีอะไรใช่ไหม แต่ถ้าเติมสิ่งนี้เข้าไปต่อท้าย “…โดยไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของผู้หญิง” มันจะกลายเป็นความน่าขยะแขยงขึ้นมาทันทีและนั่นคือสิ่งที่เด่นชัยทำ

เราดูเรื่องนี้แล้วหงุดหงิดมาก เราไม่รู้สึกถึงความโรแมนติกเลย มีแต่คำด่าผุดขึ้นในใจเป็นหมื่นล้านคำ และเราไม่รู้ว่าทำไมเนื้อเรื่องทำนองนี้ถึงกลายเป็นหนังรักโรแมนติก-ดราม่าไปได้ กับการที่ผู้ชายคนหนึ่งหาประโยชน์จากผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในสภาวะอ่อนไหว (ความจำเสื่อม) ไม่พร้อมปกป้องตัวเองด้วยการโกหก คุณนำเสนอตัวละครแบบนี้ให้เป็นพระเอกหรือเรื่องรักน่าฟิน น่าเห็นใจได้ยังไง?

 


ทุกคนมีความรักได้ แต่ต้องมีขอบเขตด้วย

เด่นชัยจะแอบชอบนางเอก จะแอบจีบสาวก็ได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร แม้หลายพฤติกรรมจะไม่เหมาะสมเท่าไรนัก แอบจองที่จอดรถไว้ให้ ก็โอเค แอบซื้อของกินมาฝากก็ยังไม่น่ารังเกียจเท่าไหร่ แค่ดูไม่น่าไว้ใจ ว่าใส่ยาพิษรึเปล่า ช่วยจัดโต๊ะให้เป็นระเบียบ อย่างน้อยหัดถามเขาก่อนก็ดี หาโหลดเพลงมาใส่ไว้ในคอมพิวเตอร์อาจเริ่มเหมือน Stalker นิด ๆ ใครมันแอบส่องฉันอยู่เนี่ย น่ากลัวนะเอาจริง แต่พฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เมื่อนำเสนอก็ต้องระวัง เพราะเส้นแบ่งระหว่างแอบชอบกับโรคจิตบางทีมันก็บางมาก ตัวละครไม่ใช่เด็กประถมเด็กมัธยมแล้วนะ ที่ใสซื่อในเรื่องแบบนี้

มันคงดีกว่าถ้าภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยสะท้อนให้เห็นถึงเส้นแบ่งบาง ๆ ระหว่างความรักกับความเหมาะสมได้ด้วย แทนการเอาพฤติกรรมแบบนี้มา Defence ว่าเป็นเรื่องของความรักเพียงอย่างเดียว ด้วยการทำให้มันโรแมนติกอย่างไร้ข้อฉุกคิด จนเลยเถิดไปถึงการกระทำไร้ขอบเขตที่นางเอกให้อภัยได้ง่ายมากจนสงสัยว่านี่โกรธปลอมใช่ไหม?

 


เกิดเป็นนางเอกแฟนเดย์ นั้นมีชะตากรรมแสนรันทด

สิ่งน่าหงุดหงิดที่สุดยิ่งกว่าพฤติกรรมของเด่นชัยคือบทนางเอกที่ถูกเขียนมาแบบนี้ งงกับนางเอกมาก ๆ ตอนแรกโกรธตัวละคร โกรธแบบ “อีบ้า ยกโทษให้ง่ายจังวะ” แต่สุดท้ายจนแล้วจนรอด โกรธที่สุดคือคนเขียนบท “ทำไมนางเอกถึงให้ยกโทษให้เด่นชัยง่ายดายถึงขนาดนั้น?” และ “ทำไมต้องทำให้เด่นชัยดูเหมือนเหยื่อน่าสงสาร ทั้งที่มันควรเป็นนางเอกที่ถูกเด่นชัยหลอก”

หลงผิดเป็นเมียน้อยเขาให้โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังไม่พอ จะฆ่าตัวตายก็ไม่สมหวังยังมาโดนเด่นชัยหลอกอีก โดนหลอกไม่พอยังถูกสาปให้ตาบอดซ้ำซ้อน อัดวิดีโอบอกให้ตัวเองกลับไปรักเขา งงมาก เล่นเอาสับสนไปเลยว่าหรือเราคิดมากไปเอง บ้า โดนหลอกแค่นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ถึงแม้เด่นชัยกับท๊อปจะศีลเกือบเสมอกันแต่ ข้อดีที่สุดของเรื่องนี้เลยก็คืออย่างน้อยเด่นชัยยังมีความรู้สึกสำนึกถูกผิดอยู่บ้าง เขาจึงหยุดทุกอย่างก่อนที่จะสายเกินไป เขาจึงพยายามเตือนนางเอกเรื่องการเป็นมือที่สาม

 

แม้ตอนจบจะปลายเปิดและทั้งคู่จะไม่ได้คู่กันอย่างชัดเจน แต่ตลอดทั้งเรื่องที่ทำขึ้นเพื่อให้คนดูรู้สึกเห็นใจในชะตากรรมของตัวละครทั้งที่ควรใช้มันเป็นบทเรียนคือสิ่งที่ไม่อาจให้อภัยได้ เราบอกไม่ได้เลยว่าการสื่อทำนองนี้จะถูกเข้าใจผิดได้มากแค่ไหน ถ้าคุณพูดเรื่องของความรักของคนขี้แพ้อย่างเด่นชัยและรู้จักการมีขอบเขต เคารพความเป็นส่วนตัวของอีกฝ่ายด้วย หนังเรื่องนี้จะมีคุณค่าขึ้นเยอะ

น่าเศร้าที่เรายังคงต้องคอยตั้งคำถามเรื่องเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมากับสื่อชิ้นใหม่ ในวันที่ผู้คนตั้งคำถามกับสื่อ ละครและภาพยนตร์ไทยมากขึ้น เราได้ประโยชน์อะไรจากมัน เราไม่รู้ว่าสุดท้ายเราได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ แต่ไม่ใช่ความโรแมนติกอย่างแน่นอนและน่าเศร้าที่ก็ไม่ใช่ข้อคิดด้วยเช่นกัน

 

It’s a NUKE! Not again.

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น