Love, Death & Robots Episode 14: Zima Blue ฉบับตีความ

Love, Death & Robots Episode 14: Zima Blue ฉบับตีความ

Zima Blue หนึ่งใน Animation เรื่องสั้นที่เจ๋งที่สุดของซีรีย์ Love, Death & Robots

ซีรีย์รวมเรื่องสั้นที่เต็มไปด้วย Animation สุดเจ๋ง แต่ละเรื่องก็มีลายเส้น แนวคิดและความเก๋าที่แตกต่างกันไป ด้วยเวลาในตอนที่ไม่ยาวนักก็ดูจบทั้งซีรีย์รวดเดียวได้แบบสบาย ๆ แต่ในตอนนี้เราจะพูดถึงเรื่องที่เรายกให้เป็น The Best ของซีรีย์ในซีซั่นนี้


Zima Blue

เรื่อง Zima Blue ถูกดัดแปลงมาจากนิยายวิทยาศาสตร์ของ Alastair Reynolds ซึ่งก็มักจะเต็มไปด้วยแนวคิดวิทยาศาสตร์ผสมปรัชญา เราเองก็เพิ่งเคยตื่นตะลึงกับอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรกตอนที่ได้ดู ‘ซีม่า บลู’ ….อ่านถึงตรงนี้ถ้าใครยังไม่ได้ดู Zima Blue หรือ Love, Death & Robots อยากแนะนำให้ไปลองซึมซับความเจ๋งของมันด้วยตัวเองในมุมของตัวเองก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านบทความก็ยังไม่สายเพราะว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นการตีความในมุมส่วนตัวผสมสปอย


เรื่องราวของซีม่าบลู

เป็นเรื่องเล่าจากมุมของนักข่าวสาวคนหนึ่งที่ได้รับการเชิญจาก ‘ซีม่า บลู’ จิตรกรชื่อดังกับผลงานสุดแอบเสิร์ด (เวอร์วัง ภาพวาดไม่ใช่ละคร) แต่ช่างมันเถอะจะเป็นงานศิลป์อะไรก็ช่างเพราะที่สำคัญคือสารที่ถูกสื่อออกมา นักข่าวสาวคนนี้ได้รับเชิญให้ไปชมงานศิลปะครั้งยิ่งใหญ่ของ ‘ซีม่า บลู’ พร้อมเรื่องราวเบื้องหลังของผลงานเพื่อเข้าใจถึงตัวตนของ ‘ซีม่า บลู’
‘ซีม่า บลู’ เป็นจิตกรที่สร้างผลงานอันตื่นตะลึงต่อผู้คนมาหลายชิ้น ด้วยภาพสี่เหลี่ยมสีฟ้าปริศนาที่ปรากฏอยู่กลางภาพวาดของเขา ซึ่งบางครั้งมันถูกปรับเปลี่ยนทั้งขนาดและรูปร่างไปเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงสีฟ้าและเป็นปริศนาเหมือนตัวตนของ ‘ซีม่า บลู’ นั่นเอง

เราตีความซีม่าบลูผ่านมุมมองของชีวิต การค้นหาความหมายของชีวิตหรือการรู้จักตัวเอง เรานึกถึงมนุษย์ในปัจจุบันกับภูมิความรู้ที่มีหรือบางทีก็อีกด้านของตัวเอง มนุษย์เราฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ อยากรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ และออกเดินทางหาความไม่สิ้นสุดของจักรวาลไปเรื่อย ๆ เพียงเพื่อจะรู้ว่าเราเป็นคนใครในความว่างเปล่าอันกว้างใหญ่นี้? โดยที่เราอาจไม่มีโอกาสได้หันกลับมาทำความรู้จักตัวเองจริง ๆ เลย

ซีม่า บลูในมุมของเราเป็นตัวแทนในสิ่งนั้น เป็นภาพสะท้อนของมนุษย์ เป็นศิลปินที่ตั้งคำถามกับตัวตน วันหนึ่งเขามองมนุษย์เป็นสิ่งเล็กจ้อยแล้วหันไปมองหาอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าอย่างจักรวาล แล้วเดินทางออกไปค้นหาบางสิ่งเพื่อพบบางอย่าง สุดท้ายหลังการเดินทางยาวนานในความว่างเปล่าของจักรวาล สิ่งที่เขาค้นพบมันกลับเป็นตัวตนของเขาเอง ตัวตนที่เขาถูกสร้างมาในแรกเริ่ม พบคำตอบที่ว่าเขาเป็นใครแล้วเขาก็เลือกกลับไปสู่สิ่งเดิมที่เขาเป็น เป็นการจบกระบวนความของการเป็นมนุษย์

หากมองซีม่า บลูเป็นเหมือนจิตวิญญาณ มันคงเป็นจิตวิญญาณที่ถูกแต่งขึ้นด้วยอะไรหลายอย่าง เหมือนมนุษย์ที่วิวัฒนาการจากรูปลักษณ์หนึ่งไปสู่รูปลักษณ์หนึ่ง เติบโตขึ้น เหมือนตัวของ ‘ซีม่า บลู’ เหมือนสี่เหลี่ยมสีฟ้าที่ถูกวาดด้วยรูปร่างหลากหลายแต่สุดท้ายมันก็ถึงสิ่งเดียวกัน การเดินทางของจิตวิญญาณไม่ใช่การเดินทางออกไปในดินแดนกว้างใหญ่หรือมีความรู้มากมายมหาศาล มันคือการย้อนกลับไปเข้าใจจุดเริ่มต้นของตัวเราเอง หลายสิ่งอาจเปลี่ยนแปลงไปแต่ความหมายจะยังคงเดิม กลับไปที่ตอนแรกของทุกอย่าง กลับไปสู่สิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุด การเข้าใจจิตวิญญาณหรือตัวตนเราหรือใด ๆ นั้น ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนให้ตัวเองเป็นอมตะเพื่อเดินทางข้ามจักรวาลเลยถึงจะค้นพบมัน


จุดสิ้นสุดของการเดินทาง

สิ่งที่เราชอบในเรื่องนี้คือการที่ ‘ซีม่า บลู’ เลือกที่จะทำลายตัวเองกลับไปสู่สิ่งที่เขาเป็นตอนแรก มันเป็นความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับความไม่รู้หลังจากนั้น จะตีความว่ามันคือการปล่อยวางก็ได้ มันเหมือนกำลังบออกว่า…มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่เอ๋ย เธอช่างเล็กกระจ้อยร่อย เธอสร้างภูมิปัญญามากมาย ทำให้เธอนั้นแข็งแกร่ง เธอออกเดินทางไปทั่วจักรวาลแต่สุดท้ายเธอก็เหมือนปลาที่ว่ายวนในอ่างน้ำ เธอคิดว่าเธอรู้แล้วหมดทุกอย่างแต่เธอแค่รู้ทุกสิ่งที่อยู่ในอ่างนั้นเองและยังมีปริศนาอีกมากข้างนอกนั่นที่เธอไม่รู้อะไร ช่วงชีวิตเธอสั้นเกินจะเห็น ต่อให้เป็นอมตะก็ยากที่จะค้นหาพบหากเธอไม่เข้าใจสิ่งที่ง่ายดายยิ่งกว่านั้น เธอพัฒนาตัวเองไปเพื่อกลับไปสู่สิ่งแรกที่เราเป็น…

ภาพสุดท้ายมันจึงเป็นสัญลักษณ์ที่เห็นแล้วรู้สึกเจ็บกระแทกใจมาก เพราะเราเองก็เคยคิดแบบนี้ แต่ก็หลงลืมมันไป เราจะออกเดินทางแล้วรู้จักทั้งจักรวาลไปทำไมถ้าเราไม่เคยพยายามเข้าใจหรือรู้จักตัวเองจริง ๆ เลย

ทั้งหมดนี้คงไม่ใช่การตีความที่ถูกต้องสมบูรณ์นัก แต่ซีม่า บลูก็เป็น Animation แฝงปรัชญาที่เรารู้สึกว่าโคตรเจ๋งและยังมีอีกหลายสิ่งหลายแง่มุมให้ขบคิดเกี่ยวกับมันได้เสมอ การบอกว่ามันคือสิ่งนี้และตีความมันออกมาเป็นแบบที่เห็นนี้ก็ไม่ใช้คำตอบสุดท้าย

ปล.หากใครเห็นมุมมองที่แตกต่างจะลองมาแบ่งปันกันก็ได้ ตามช่องทางติดต่อข้างล่าง แล้วเจอกันในวันเลขคี่

Don't go to Sleep

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น